การเรียงลำดับคำเรียงตามลำดับคำแบบพจนานุกรมคำที่มีความหมายเหมือนกันจะเก็บไว้ด้วยกันโดยใช้เครื่องหมายจุลภาคคั่นและเรียงสลับกันไป
ในตำแหน่งของหมวดอักษรนั้น ๆ โดยแสดงลักษณนามไว้ที่คอลัมน์ด้านขวา เช่น
กงกระสุน
- คัน
กงเกวียน, กงล้อ
- กง, วง
คำนามที่มีลักษณนามได้หลายอย่าง คำนามบางคำอาจมีลักษณนามได้หลายอย่างในการกำหนดลักษณนามแบ่งออกเป็น ๓ แบบ
คือ
กำหนดลักษณนามที่นิยมใช้กันมากไว้หน้าสุดและลักษณนามอื่น ๆ
เรียงตามกันไปโดยใช้เครื่องหมายจุลภาคคั่น เช่น
ไข่
- ใบ, ฟอง, ลูก
โคม (ชนิดต่าง ๆ)
- ดวง, ใบ, ลูก
กำหนดลักษณนามแตกต่างกันตามสภาพที่เป็นอยู่โดยใช้เครื่องหมายอัฒภาคคั่น
เพื่อบอกให้รู้ว่าลักษณนามนั้นๆแม้จะเป็นลักษณนามของสิ่งเดียวกันแต่ก็มีความแตกต่างกันตามสภาพ
เช่น ซิ่น, ผ้าซิ่น
- ผืน; ตัว, ถุง
หมายความว่าซิ่นหรือผ้าซิ่นถ้ายังไม่ได้ตัดเย็บลักษณนามใช้ว่าผืนแต่ถ้าตัดเย็บแล้วใช้ลักษณนามว่า
ตัว หรือ ถุง
ปิ่นโต
- ใบ, ลูก; เถา, สาย
หมายความว่าปิ่นโตแต่ละใบใช้ลักษณนามว่าใบหรือลูกแต่ถ้านำมาเรียงซ้อนกันแล้วมีเครื่องยึดรวมเข้าด้วยกัน
ใช้ลักษณนามว่าเถาหรือสายบางครั้งอาจให้คำอธิบายสั้นๆไว้หลังลักษณนามนั้นๆโดยใส่คำอธิบายไว้ในเครื่องหมายวงเล็บ
เช่น
ระนาด (เครื่องปี่พาทย์ชนิดหนึ่ง)
- ลูก (ลูกระนาด);ผืน (ลูกระนาดที่ร้อยเข้า เป็นชุด);ราง
กำหนดลักษณนามตามขนาดความกว้างความยาวปริมาณน้ำหนักหรือรูปแบบที่ใช้งานโดยระบุว่า “เรียกตามลักษณะ”หรือ“เรียกตามลักษณะหรือลักษณะบรรจุภัณฑ์”แล้วให้ยกตัวอย่างลักษณนาม เช่น ทอฟฟี่ เรียกตามลักษณะหรือลักษณะบรรจุภัณฑ์ เช่นเม็ดอันห่อแท่งหรือกำหนดทั้งลักษณนามทั่วไปและลักษณะบรรจุภัณฑ์
เช่นด้าย - เส้น; เรียกตามลักษณะหรือลักษณะบรรจุภัณฑ์ เช่น กลุ่ม เข็ด ไจ หลอด
ผม - เส้น; เรียกตามลักษณะ เช่น กระจุก ปอย
ฉลองพระเนตร - องค์
ฉลองพระบาท, รองพระบาท - ข้าง, องค์; คู่
ในกรณีที่คำนามนั้นเป็นทั้งคำราชาศัพท์และคำนามที่ใช้ได้ทั่วไปจะกำหนดลักษณนามไว้ทั้ง
๒ อย่าง เช่น
พระขรรค์ - องค์; เล่ม (ถ้าใช้ทั่วไป)