การใช้ภาษาไทยในการสื่อสารปํญหาที่พบส่วนใหญ่ ได้แก่ การพูดและออกเสียงคำไม่ชัดการใช้คำผิดความหมายใช้คำฟุ่มเฟือยใช้ลักษณนามไม่ถูกต้องฉะนั้นการใช้ภาษาไทยในการสื่อสาร
ผู้ส่งสารจะต้องรู้จักเลือกคำและใช้ประโยคให้ถูกต้องตามความเหมาะสมจึงจะทำให้ใช้ภาษาไทยในการสื่อสาร
ได้อย่างมีประสิทธิภาพ วิธีการเลือกใช้คำและประโยค มีดังนี้
การเลือกใช้คำเพื่อให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพผู้ส่งสารจะต้องมีพื้นความรู้ในเรื่องการใช้คำ เสียงของคำหรือการอ่านออกเสียงคำและรู้จักความหมายของคำรวมทั้งรู้จักแยกแยะความเหมาะสมของระดับคำกับโอกาส และบุคคลด้วยการใช้คำในภาษาไทยเพื่อการสื่อสารควรมีหลักดังนี้
การเลือกใช้คำเพื่อให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพผู้ส่งสารจะต้องมีพื้นความรู้ในเรื่องการใช้คำ เสียงของคำหรือการอ่านออกเสียงคำและรู้จักความหมายของคำรวมทั้งรู้จักแยกแยะความเหมาะสมของระดับคำกับโอกาส และบุคคลด้วยการใช้คำในภาษาไทยเพื่อการสื่อสารควรมีหลักดังนี้
๑.๑ ใช้คำให้ถูกต้องตรงตามตัว เนื่องจากภาษาไทยมีถ้อยคำใช้ในภาษาเป็นจำนวนมากบางคำอาจมีรูปคำคล้ายกันหรือใกล้เคียงกันแต่ความหมายต่างกัน
และนำมาใช้แทนกันไม่ได้หากผู้ส่งสารขาดการศึกษาและสังเกตอาจอาจทำให้ใช้คำผิดความหมายได้ลักษณะของคำ
ที่ทำให้ผู้ส่งสารสับสนใช้ผิดไม่ถูกต้องตรงตามความหมายมีดังนี้
๑) รูปคำคล้ายกันแต่ความหมายต่างกัน เช่น
ผ่อนผัน (ก) ลดย่อนตาม,ลดย่อนให้
ผ่อนปรน (ก) แบ่งหนักให้เป็นเบา เอาไปทีละน้อย ขยับขยายให้เบาบางลง
ผ่อนคลาย (ก) ลดความตึงเครียด
ผ่อนผัน
มักใช้เมื่อฝ่ายที่มีอำนาจเหนือกว่าลดย่อนให้ตามที่ฝ่ายด้อยกว่าขอร้องการร้องขอของอีกฝ่ายหนึ่องเรียกว่า
ขอผ่อนผัน เช่น
นักศึกษาต้องการยื่นคำร้องขอผ่อนผันค่าลงทะเบียนต่อทางวิทยาลัยภายในกำหนด
ผ่อนปรน
มักใช้กับบุคคลสองฝ่ายโดยที่ต่างฝ่ายตกลงยินยอมขยับขยายให้แก่กันหรือบรรเทา เช่น
หมู่บ้านนี้อยู่กันมาด้วยความสงบสุข เพราะชาวบ้านต่างรู้จักผ่อนปรมให้แก่กัน
ผ่อนคลาย
มักนิยมใช้กับอารมณ์และความรู้สึกหรือสภาพเหตุการณ์อย่างใดอย่างหนึ่งเช่นสถานการณ์ตึงเครียดจากการที่คนงาน
ชุมนุมประท้วงนัดหยุดงานได้ผ่อนคลายลงแล้ว
๑.๒ ใช้คำถูกต้องตามอักขรวิธี การสื่อสารด้วยภาษาไทยอย่างมีประสิทธิภาพนั้นผู้ส่งสารจะต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ในการอ่านและเขียนให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์
ของภาษาทั้งนี้ผู้ส่งสารจะต้องศึกษาทั้งสองด้านควบคู่กันไปโดยอาศัยการสังเกตและจดจำเพื่อนำไปสู่การใช้
ภาษาที่ถูกต้อง และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
การใช้คำที่ถูกต้องตามอักขรวิธีผู้ส่งสารควรศึกษาในด้านดังต่อไปนี้
การอ่านคำ คำในภาษาไทยมีวิธีการอ่านที่แตกต่างกันดังนี้
- การอ่านอักษรนำ คือการอ่านออกเสียงคำที่มีพยัญชนะ๒ตัวเรียงกันพยัญชนะตัวหน้าเป็นอักษรสูงหรืออักษรกลางนำอักษรต่ำ
ประสมสระเดียวกันจะออกเสียงเป็นสองพยางค์และออกเสียง อะ ที่พยัญชนะตัวหน้าเช่น
ขนุน (ขะ-หนุน) ขณะ (ขะ-หนะ)
สมาน อ่านว่า สะ - หมาน
ผนวช อ่านว่า ผะ – หนวด
สนอง อ่านว่า สะ – หนอง
ผนวก อ่านว่า ผะ – หนวก
ถนอม อ่านว่า ถะ – หนอม
ผนึก อ่านว่า ผะ – หนึก
จมูก อ่านว่า จะ – หมูก
จรัส อ่านว่า จะ – หรัด
๑.๓ ใช้คำถูกต้องตามหน้าที่ของคำ ลักษณะนาม
คือ คำนามชนิดหนึ่งที่ทำหน้าที่ประกอบนามอื่น เพื่อบอกรูปลักษณะ ขนาด หรือประมาณของนาม มักใช้ตามหลังคำวิเศษณ์บอกจำนวนนับจะอยู่หลังตัวเลขบอกจำนวน ในการใช้ลักษณะนามนั้น ต้องคำนึงถึงความถูกต้อง ความนิยมของภาษาเป็นสำคัญ เพราะลักษณะนามของนามบางอย่างบางชนิดไม่สามารถมาเป็นกฎตายตัวว่าคำนามชนิดนั้นต้องใช้ลักษณะนามอย่างนั้น ต้องดูส่วนอื่นประกอบด้วย เช่น บริบท ( คำที่อยู่รอบ ๆประโยค
) ผู้ใช้ลักษณะนามถูกต้องจึงต้องเป็นผู้สังเกตพิจารณา
และรอบรู้ในเรื่องต่าง ๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น