วันพุธที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

การใช้ภาษาไทยอย่างมีประสิทธิภาพ


             การใช้ภาษาไทยในการสื่อสารปํญหาที่พบส่วนใหญ่ ได้แก่ การพูดและออกเสียงคำไม่ชัดการใช้คำผิดความหมายใช้คำฟุ่มเฟือยใช้ลักษณนามไม่ถูกต้องฉะนั้นการใช้ภาษาไทยในการสื่อสาร ผู้ส่งสารจะต้องรู้จักเลือกคำและใช้ประโยคให้ถูกต้องตามความเหมาะสมจึงจะทำให้ใช้ภาษาไทยในการสื่อสาร ได้อย่างมีประสิทธิภาพ วิธีการเลือกใช้คำและประโยค มีดังนี้            
              การเลือกใช้คำเพื่อให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพผู้ส่งสารจะต้องมีพื้นความรู้ในเรื่องการใช้คำ เสียงของคำหรือการอ่านออกเสียงคำและรู้จักความหมายของคำรวมทั้งรู้จักแยกแยะความเหมาะสมของระดับคำกับโอกาส และบุคคลด้วยการใช้คำในภาษาไทยเพื่อการสื่อสารควรมีหลักดังนี้

              ๑.๑ ใช้คำให้ถูกต้องตรงตามตัว เนื่องจากภาษาไทยมีถ้อยคำใช้ในภาษาเป็นจำนวนมากบางคำอาจมีรูปคำคล้ายกันหรือใกล้เคียงกันแต่ความหมายต่างกัน และนำมาใช้แทนกันไม่ได้หากผู้ส่งสารขาดการศึกษาและสังเกตอาจอาจทำให้ใช้คำผิดความหมายได้ลักษณะของคำ ที่ทำให้ผู้ส่งสารสับสนใช้ผิดไม่ถูกต้องตรงตามความหมายมีดังนี้
๑) รูปคำคล้ายกันแต่ความหมายต่างกัน เช่น
ผ่อนผัน (ก) ลดย่อนตาม,ลดย่อนให้
ผ่อนปรน (ก) แบ่งหนักให้เป็นเบา เอาไปทีละน้อย ขยับขยายให้เบาบางลง
ผ่อนคลาย (ก) ลดความตึงเครียด
ผ่อนผัน มักใช้เมื่อฝ่ายที่มีอำนาจเหนือกว่าลดย่อนให้ตามที่ฝ่ายด้อยกว่าขอร้องการร้องขอของอีกฝ่ายหนึ่องเรียกว่า ขอผ่อนผัน เช่น นักศึกษาต้องการยื่นคำร้องขอผ่อนผันค่าลงทะเบียนต่อทางวิทยาลัยภายในกำหนด
ผ่อนปรน มักใช้กับบุคคลสองฝ่ายโดยที่ต่างฝ่ายตกลงยินยอมขยับขยายให้แก่กันหรือบรรเทา เช่น หมู่บ้านนี้อยู่กันมาด้วยความสงบสุข เพราะชาวบ้านต่างรู้จักผ่อนปรมให้แก่กัน
ผ่อนคลาย มักนิยมใช้กับอารมณ์และความรู้สึกหรือสภาพเหตุการณ์อย่างใดอย่างหนึ่งเช่นสถานการณ์ตึงเครียดจากการที่คนงาน ชุมนุมประท้วงนัดหยุดงานได้ผ่อนคลายลงแล้ว

              ๑.๒ ใช้คำถูกต้องตามอักขรวิธี การสื่อสารด้วยภาษาไทยอย่างมีประสิทธิภาพนั้นผู้ส่งสารจะต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ในการอ่านและเขียนให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ ของภาษาทั้งนี้ผู้ส่งสารจะต้องศึกษาทั้งสองด้านควบคู่กันไปโดยอาศัยการสังเกตและจดจำเพื่อนำไปสู่การใช้ ภาษาที่ถูกต้อง และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น การใช้คำที่ถูกต้องตามอักขรวิธีผู้ส่งสารควรศึกษาในด้านดังต่อไปนี้
การอ่านคำ คำในภาษาไทยมีวิธีการอ่านที่แตกต่างกันดังนี้
การอ่านอักษรนำ คือการอ่านออกเสียงคำที่มีพยัญชนะ๒ตัวเรียงกันพยัญชนะตัวหน้าเป็นอักษรสูงหรืออักษรกลางนำอักษรต่ำ ประสมสระเดียวกันจะออกเสียงเป็นสองพยางค์และออกเสียง อะ ที่พยัญชนะตัวหน้าเช่น
ขนุน (ขะ-หนุน) ขณะ (ขะ-หนะ)
สมาน      อ่านว่า   สะ - หมาน 
ผนวช      อ่านว่า   ผะ หนวด
สนอง       อ่านว่า   สะ หนอง
ผนวก      อ่านว่า    ผะ – หนวก
ถนอม     อ่านว่า    ถะ หนอม
ผนึก       อ่านว่า    ผะ หนึก
จมูก       อ่านว่า    จะ – หมูก
จรัส        อ่านว่า    จะ หรัด


          ๑.๓ ใช้คำถูกต้องตามหน้าที่ของคำ ลักษณะนาม  คือ  คำนามชนิดหนึ่งที่ทำหน้าที่ประกอบนามอื่น  เพื่อบอกรูปลักษณะ  ขนาด  หรือประมาณของนาม มักใช้ตามหลังคำวิเศษณ์บอกจำนวนนับจะอยู่หลังตัวเลขบอกจำนวน   ในการใช้ลักษณะนามนั้น  ต้องคำนึงถึงความถูกต้อง ความนิยมของภาษาเป็นสำคัญ เพราะลักษณะนามของนามบางอย่างบางชนิดไม่สามารถมาเป็นกฎตายตัวว่าคำนามชนิดนั้นต้องใช้ลักษณะนามอย่างนั้น  ต้องดูส่วนอื่นประกอบด้วย  เช่น  บริบท ( คำที่อยู่รอบ ๆประโยค )  ผู้ใช้ลักษณะนามถูกต้องจึงต้องเป็นผู้สังเกตพิจารณา  และรอบรู้ในเรื่องต่าง ๆ











ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น